ฟิล์มกรองแสงเปรียบเสมือนเกราะป้องกันแสงแดดและความร้อนที่ติดตั้งบนกระจก ผลิตจากพลาสติกโพลีเอสเตอร์ที่มีคุณสมบัติเหนียว ใส เรียบ ยืดหยุ่นน้อย ไม่ดูดซับความชื้น ทนทานต่อสภาพอากาศร้อนและเย็นได้ดี
กลไกการทำงานของฟิล์ม:
ฟิล์มกรองแสงประกอบด้วยชั้นวัสดุที่ผ่านกระบวนการผลิตพิเศษ ช่วยลดความร้อน รังสียูวี และแสงจ้าที่ผ่านเข้ามา โดยไม่ลดทัศนวิสัยการมองเห็น
ประเภทของฟิล์มกรองแสง:
- ฟิล์มดำ: กันความร้อนได้ดี แต่ทัศนวิสัยยามค่ำคืนอาจลดลง เหมาะกับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว
- ฟิล์มปรอท: สะท้อนความร้อนได้ดี แต่แสงสะท้อนภายในห้องโดยสารอาจมาก เหมาะกับผู้ที่ต้องการกันความร้อนและแสงจ้า
- ฟิล์มใส: กันความร้อนได้ดี ทัศนวิสัยชัดเจน เหมาะกับผู้ที่ต้องการความใสและกันความร้อน
ค่าตัวเลขบนฟิล์มกรองแสง:
VLT (Visible Light Transmittance): ค่าแสงสว่างที่ผ่านเข้ามา ยิ่งค่า VLT สูง แสดงว่าฟิล์มใส
VLR (Visible Light Reflectance): ค่าแสงสะท้อน ยิ่งค่า VLR สูง แสดงว่าฟิล์มสะท้อนแสงมาก
IR (Infrared Light Rejection): ค่าการป้องกันรังสีอินฟราเรด ยิ่งค่า IR สูง แสดงว่ากันความร้อนได้ดี
UV (UV Rejection): ค่าการป้องกันรังสียูวี
TSER (Total Solar Energy Rejection): ค่าการป้องกันความร้อนรวม ยิ่งค่า TSER สูง แสดงว่ากันความร้อนได้ดี
ระดับความเข้มของฟิล์ม:
- ฟิล์มเข้ม 40: แสงสว่างส่องผ่าน 40-50% เหมาะกับรถที่ต้องการความใสและกันความร้อน
- ฟิล์มเข้ม 60: แสงสว่างส่องผ่าน 20% เหมาะกับรถที่ต้องการกันความร้อนและแสงจ้า
- ฟิล์มเข้ม 80: แสงสว่างส่องผ่าน 5% เหมาะกับรถที่ต้องการกันความร้อนสูงสุด แต่ทัศนวิสัยยามค่ำคืนอาจลดลง
ข้อควรระวัง:
- ควรเลือกฟิล์มกรองแสงที่มีมาตรฐาน มียี่ห้อ
- ควรติดตั้งฟิล์มกรองแสงกับร้านที่ได้มาตรฐาน
- ควรตรวจสอบกฎหมายการติดตั้งฟิล์มกรองแสงของแต่ละประเทศ
ฟิล์มกรองแสง เปรียบเสมือนผู้ช่วยที่ช่วยให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย สะดวกสบาย และเย็นสบาย